ตลาดรวมรถจักรยานยนต์เริ่มฟื้นตัวจากปัจจัยเศรษฐกิจเริ่มดีขึ้น เอ.พี.ฮอนด้าปรับเป้าตลาดรวมปีนี้เพิ่มขึ้นเป็น 1.47 ล้านคัน พร้อมเปิดตัวรถสกู๊ตเตอร์ใหม่ 49 กม./ลิตร กระทุ้งยอดขายให้เป็นไปตามเป้าหมายถึงสิ้นปีนี้
นายเซนจิโร่ ชากุราอิ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จำกัด เปิดเผยว่าจากปัจจัยบวกตางๆ ทีส่งสัญญาณให้สภาพตลาดรถจักรยานยนต์ในครึ่งปีหลังกลับมาเริ่มสดใสและค่อยๆ ฟื้นตัวขึ้นอย่างช้าๆ ซึ่งบริษัทได้มีการปรับการคาดการณ์ตลาดรวมรถจ้กรยานยนต์ในปีนี้เพิ่มขึ้นเป็น 1,470,000 คัน จากเดิมเมื่อต้นปีที่ได้คาดการณ์ 1,350,00 คัน ขณะที่ปัจจัยสำคัญส่งผลให้ยอดจำหน่ายรถจักรยานยนต์ดีขึ้นจะมาจากการที่บริษัทผู้นำตลาดรถจักรยานยนต์ในประเทศได้ผลักดันกลยุทธ์การตลาด สร้างสรรค์และพัฒนาสิ่งใหม่ๆ ออกมาโดยตลอด เช่น เมื่อครั้งการประกาศเปลี่ยนยุคแห่งการขับขี่การสู่ยุคหัวฉีดเมื่อต้นปีที่ผ่านมา อีกทั้งสถานการณ์ทางเศรษฐกิจเริ่มส่งสัญญาณฟื้นตัวดีขึ้น ส่งผลให้ตลาดรถจักรยานยนต์เริ่มกลับมาสู่สภาวะปกติอีกครั้ง
"หลังจากสถานการณ์ทางเศรษฐกิจในสหรัฐเข้าสู่วิกฤตการณ์ในช่วงเดือนกันยายนปีที่แล้ว อุตสาหกรรมทุกประเภทต่างได้รับผลกระทบเช่นกัน รวมไปถึงตลาดรถจักรยานยนต์ในไทยก็ได้รับผลกระทบด้วย โดยได้รับผลกระทบหนักในช่วงเดือนพฤศจิกายน 2551 ขณะนั้น ตลาดรวมมียอดขายหดตัวถึง 17% เมื่อเทียบกับปี 2550 ที่ผ่านมา"
อย่างไรก็ตามอัตราการเติบโตของตลาดรถจักรยานยนต์ที่เคยเป็นมาในอดีต อาจะไม่เป็นอย่างที่เคย เนื่อจากความต้องการของลูกค้าที่จะซื้อรถจักรยานยนต์อาจมีความเปลี่ยนแปลงไปแต่บริษัทยังเล็งเห็นถึงบทบาทของรถจักรยานยนต์ที่มีส่วนสำคัญในชีวิตประจำวันของผู้บริโภคในการใช้รถ
ขณะเดียวกันบริษัทได้เปิดตัวรถจักรยานยนต์สกู๊ตเตอร์ เอ.ที."ฮอนด้า สกู๊ปปี้ ไอ" เสริมความต้องการตลาดในทุกๆ เซ็กเมนต์ ที่โรงงานไทยฮอนด้าเป็นผู้ผลิตรุ่นนี้ และนอกจากจะจำหน่ายในประเทศไทยแล้วยังทำการผลิตและส่งออก ไม่เพียงเฉพาะในภูมิภาคอาเซียนเท่านั้น รวมไปถึงประเทศญึ่ปุ่น ยุโรป สหรัฐ และออสเตรเลียอีกด้วย
สำหรับเครื่องยนต์ของรถจักรยานยนต์สกู๊ปปี้ ไอ ยังคงใช้เทคโนโลยีหัวฉีด PGM-FI ขนาด 110 ซีซี 4 จังหวะ มีอัตราการบริโภคน้ำมันประหยัดมากถึง 49 กิโลเมิตร/ลิตร ค่าไอเสียผ่านมาตรฐานระดับ 6 สามารถใช้น้ำมัน E20 ได้พร้อมรับประกันคุณภาพหัวฉีดนานถึง 5 ปี หรือ 50,000 กิโลเมตร
"ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาตลาดรถจักรยานยนต์สกู๊ตเตอร์ เอ.ที.ในประเทศไทย มีอัตราการเติบโตอย่างรวดเร็ว จนมีอัตราส่วนแบ่งในตลาดรถจักรยานยนต์ถึง 50% เหตุเพราะรสนิยมของผู้บริโภคมีความหลากหลายเพิ่มมากขึ้น หัวใจสำคัญของผู้บริโภคที่เลือกใช้ คือ ง่าย สะดวกและสบาย"
ส่วนราคาจำหน่ายรถจักรยานยนต์สกู๊ตเตอร์ ออนด้า สกู๊ปปี้ ไอ เคาะราคาจำหน่ายที่ 44,300 บาท ตั้งเป้าหมายยอดจำหน่ายที่ 150,000 คัน/ปี พร้อมแคมเปญพิเศษสำหรับผู้ที่ซื้อรถจักรยานยนต์ดังกล่าว 10,000 คันแรก รับชุดของขวัญ Scoopy I Collection แจ๊คเกตและหมวกกันน๊อคสีเดียวกับตัวรถ ตั้งแต่วันนี้ - 15 ตุลาคม 2552
"การเปิดตัวรถดังกล่าวบริษัทมั่นใจได้ว่าจะสามารถช่วยกระตุ้นให้ยอดจำหน่ายรถจักรยานยนต์ของบริษัทกลับมาได้อีกครั้งในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ โดยยอดจำหน่ายของบริษัทถึงสิ้นปีนี้คาดการณ์ว่าจะมียอดจำหน่ายกว่า 1 ล้านคัน พร้อมกันนี้บริษัทมีแผนการที่จะเปิดตัวอีก 1 รุ่น คือ รถจักรยานยนต์สกู๊ตเตอร์ฮอนด้า PCX ในช่วงปลายปีนี้ เป็นการสอดรับกระตุ้นตลาดให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง"
ที่มา หนังสือพิมพ์ดอกเบี้ยธุรกิจ
นายเซนจิโร่ ชากุราอิ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จำกัด เปิดเผยว่าจากปัจจัยบวกตางๆ ทีส่งสัญญาณให้สภาพตลาดรถจักรยานยนต์ในครึ่งปีหลังกลับมาเริ่มสดใสและค่อยๆ ฟื้นตัวขึ้นอย่างช้าๆ ซึ่งบริษัทได้มีการปรับการคาดการณ์ตลาดรวมรถจ้กรยานยนต์ในปีนี้เพิ่มขึ้นเป็น 1,470,000 คัน จากเดิมเมื่อต้นปีที่ได้คาดการณ์ 1,350,00 คัน ขณะที่ปัจจัยสำคัญส่งผลให้ยอดจำหน่ายรถจักรยานยนต์ดีขึ้นจะมาจากการที่บริษัทผู้นำตลาดรถจักรยานยนต์ในประเทศได้ผลักดันกลยุทธ์การตลาด สร้างสรรค์และพัฒนาสิ่งใหม่ๆ ออกมาโดยตลอด เช่น เมื่อครั้งการประกาศเปลี่ยนยุคแห่งการขับขี่การสู่ยุคหัวฉีดเมื่อต้นปีที่ผ่านมา อีกทั้งสถานการณ์ทางเศรษฐกิจเริ่มส่งสัญญาณฟื้นตัวดีขึ้น ส่งผลให้ตลาดรถจักรยานยนต์เริ่มกลับมาสู่สภาวะปกติอีกครั้ง
"หลังจากสถานการณ์ทางเศรษฐกิจในสหรัฐเข้าสู่วิกฤตการณ์ในช่วงเดือนกันยายนปีที่แล้ว อุตสาหกรรมทุกประเภทต่างได้รับผลกระทบเช่นกัน รวมไปถึงตลาดรถจักรยานยนต์ในไทยก็ได้รับผลกระทบด้วย โดยได้รับผลกระทบหนักในช่วงเดือนพฤศจิกายน 2551 ขณะนั้น ตลาดรวมมียอดขายหดตัวถึง 17% เมื่อเทียบกับปี 2550 ที่ผ่านมา"
อย่างไรก็ตามอัตราการเติบโตของตลาดรถจักรยานยนต์ที่เคยเป็นมาในอดีต อาจะไม่เป็นอย่างที่เคย เนื่อจากความต้องการของลูกค้าที่จะซื้อรถจักรยานยนต์อาจมีความเปลี่ยนแปลงไปแต่บริษัทยังเล็งเห็นถึงบทบาทของรถจักรยานยนต์ที่มีส่วนสำคัญในชีวิตประจำวันของผู้บริโภคในการใช้รถ
ขณะเดียวกันบริษัทได้เปิดตัวรถจักรยานยนต์สกู๊ตเตอร์ เอ.ที."ฮอนด้า สกู๊ปปี้ ไอ" เสริมความต้องการตลาดในทุกๆ เซ็กเมนต์ ที่โรงงานไทยฮอนด้าเป็นผู้ผลิตรุ่นนี้ และนอกจากจะจำหน่ายในประเทศไทยแล้วยังทำการผลิตและส่งออก ไม่เพียงเฉพาะในภูมิภาคอาเซียนเท่านั้น รวมไปถึงประเทศญึ่ปุ่น ยุโรป สหรัฐ และออสเตรเลียอีกด้วย
สำหรับเครื่องยนต์ของรถจักรยานยนต์สกู๊ปปี้ ไอ ยังคงใช้เทคโนโลยีหัวฉีด PGM-FI ขนาด 110 ซีซี 4 จังหวะ มีอัตราการบริโภคน้ำมันประหยัดมากถึง 49 กิโลเมิตร/ลิตร ค่าไอเสียผ่านมาตรฐานระดับ 6 สามารถใช้น้ำมัน E20 ได้พร้อมรับประกันคุณภาพหัวฉีดนานถึง 5 ปี หรือ 50,000 กิโลเมตร
"ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาตลาดรถจักรยานยนต์สกู๊ตเตอร์ เอ.ที.ในประเทศไทย มีอัตราการเติบโตอย่างรวดเร็ว จนมีอัตราส่วนแบ่งในตลาดรถจักรยานยนต์ถึง 50% เหตุเพราะรสนิยมของผู้บริโภคมีความหลากหลายเพิ่มมากขึ้น หัวใจสำคัญของผู้บริโภคที่เลือกใช้ คือ ง่าย สะดวกและสบาย"
ส่วนราคาจำหน่ายรถจักรยานยนต์สกู๊ตเตอร์ ออนด้า สกู๊ปปี้ ไอ เคาะราคาจำหน่ายที่ 44,300 บาท ตั้งเป้าหมายยอดจำหน่ายที่ 150,000 คัน/ปี พร้อมแคมเปญพิเศษสำหรับผู้ที่ซื้อรถจักรยานยนต์ดังกล่าว 10,000 คันแรก รับชุดของขวัญ Scoopy I Collection แจ๊คเกตและหมวกกันน๊อคสีเดียวกับตัวรถ ตั้งแต่วันนี้ - 15 ตุลาคม 2552
"การเปิดตัวรถดังกล่าวบริษัทมั่นใจได้ว่าจะสามารถช่วยกระตุ้นให้ยอดจำหน่ายรถจักรยานยนต์ของบริษัทกลับมาได้อีกครั้งในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ โดยยอดจำหน่ายของบริษัทถึงสิ้นปีนี้คาดการณ์ว่าจะมียอดจำหน่ายกว่า 1 ล้านคัน พร้อมกันนี้บริษัทมีแผนการที่จะเปิดตัวอีก 1 รุ่น คือ รถจักรยานยนต์สกู๊ตเตอร์ฮอนด้า PCX ในช่วงปลายปีนี้ เป็นการสอดรับกระตุ้นตลาดให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง"
ที่มา หนังสือพิมพ์ดอกเบี้ยธุรกิจ