Wednesday, January 20, 2010

มอเตอร์ไบค์เฟสต์ กระหึ่ม 8 ค่ายลงขัน 15 ล้าน

มอเตอร์ไบค์ เฟสติวัล กระหึ่ม หลังผู้จัดดึง 8 ค่ายมอเตอร์ไซค์ร่วมงาน เผยเทงบฯกว่า 15 ล้าน เนรมิตพื้นที่เซ็นทรัลเวิลด์เอาใจคนรัก 2 ล้อ คาดเงินสะพัดไม่น้อยกว่า 200 ล้าน คนร่วมงานกว่า 2 เเสน

นายณัฐพล ไตรณัฐี ผู้จัดงานแบ็งคอก มอเตอร์ไบค์ เฟสติวัล เปิดเผยว่า ในปีนี้ จะมีการจัดงานแบ็งคอก มอเตอร์ไบค์ เฟสติวัล ครั้งที่ 2 ซึ่งถือเป็นงานแสดงรถยนต์จักรยานยนต์ที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน ภายใต้แนวคิด "สัมผัสแห่งการเดินทาง" ระหว่างวันที่ 28-31 ม.ค. 53 ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ โดยมีค่ายรถมอเตอร์ไซค์หลายแห่งร่วมแสดงรถ ได้แก่ ฮาร์เล่ย์-เดวิดสัน ไทรอัมพ์ ดูคาติ บีเอ็มดับเบิลยู สไปเดอร์ ซาช ฮอนด้า และยามาฮ่า

"จากการจัดงานปีที่แล้วซึ่งได้รับความสนใจจากผู้ที่ชื่นชอบมอเตอร์ไบก์เป็นจำนวนมาก ในปีนี้เราจัดงานให้ยิ่งใหญ่ขึ้น โดยใช้งบประมาณจัดงาน 10-15 ล้านบาท คาดว่า จะมีผู้ร่วมชมงานประมาณ 1.5-2 แสนคน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วที่มี 1 แสนคน ส่วนยอดขายน่าจะทำได้ที่ 100 คัน มีเงินสะพัดในงานประมาณ 200 ล้านบาท" นายณัฐพลกล่าว

สำหรับการจัดงาน นอกจากจัดแสดง มอเตอร์ไบก์แล้ว ยังมีร้านค้าอุปกรณ์ตกแต่ง เครื่องแต่งกาย เครื่องป้องกันและอะไหล่จากผู้ผลิตและผู้นำเข้ามาจำหน่ายด้วย รวมทั้งการแสดงขับขี่มอเตอร์ไซค์ผาดโผนบริเวณลานหน้า, เวทีสนทนา จากเหล่านักขี่ผู้มีชื่อเสียงในวงการรถมอเตอร์ไซค์ของเมืองไทย, การรวบรวมรถมอเตอร์ไซค์ที่ผ่านการปรับแต่ง ทั้งในสไตล์ Chopper, Sport, Touring, Big Scooter, Naked, Motocross

นอกจากนี้ยังมีการโชว์รถมอเตอร์ไซค์โบราณซึ่งสนับสนุนรถโดยชมรมอนุรักษ์และพัฒนาจักรยานยนต์โบราณไทย ภายใต้มูลนิธิอนุรักษ์และพัฒนาอากาศ ยานไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ และกิจกรรมนอร์ทเทิร์นทริป ซึ่งเป็นคาราวาน ขี่มอเตอร์ไซค์ท่องเที่ยวตั้งแต่เชียงใหม่มาถึงกรุงเทพฯ ซึ่งจะเดินทางมาถึงกรุงเทพฯวันที่ 28 ม.ค.ด้วย

ปัจจุบันมีจำนวนผู้ใช้รถมอเตอร์ไบก์ประมาณหลักแสนคัน ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีการพบปะเพื่อเดินทางหรือทำกิจกรรมร่วมกันอยู่เสมอ และมีผู้สนใจเพิ่มขึ้นทุกปี จึงทำให้มั่นใจว่าตลาดของมอเตอร์ไบก์ในประเทศไทยยังสามารถเติบโตได้อีก สำหรับการจัดงานในปีนี้คาดว่าจะรับความสนใจจากทั้งสื่อในและต่างประเทศ ในอนาคตมีโครงการจะเชิญบริษัทผู้ผลิตมอเตอร์ไซค์จากต่างประเทศมาเปิดตัวที่ประเทศไทยอีกด้วย

"กิจกรรมของผู้ขับขี่มอเตอร์ไบก์เริ่มหยุดไปเมื่อปี 2535-2536 แต่ปัจจุบันตลาดมอเตอร์ไบก์เริ่มกลับมาคึกคักขึ้น การรวมกลุ่มของผู้ใช้มอเตอร์ไบก์เป็นกลุ่มใหญ่ เพราะการติดต่อสื่อสารทางอินเทอร์เน็ตที่ง่ายและรวดเร็ว และงานนี้จะช่วยให้ลูกค้า ที่คิดจะมีรถมอเตอร์ไบก์เข้าถึงได้ง่ายขึ้น โดยเราได้จัดการประชาสัมพันธ์ไปยังกลุ่ม ผู้ใช้มอเตอร์ไซค์ทั้งหมด ไม่เฉพาะผู้ที่ใช้ มอเตอร์ไบก์เท่านั้น" นายณัฐพลกล่าว


เพิ่มเติม http://www.langrod.com/news/motorcycle/3156.htm

Blog Archive